วิธีการรักษาแบบ PIDD
- หน้าหลัก/
- ภาพรวมวิธีการรักษา/โรคที่รักษา/
- วิธีการรักษาแบบ PIDD
PIDD คือ
Percutaneous Implant Disc DecompressionPIDD เป็นการรักษาโรคหมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาทแบบที่มีแผลเพียงเล็กน้อยและถูกใช้อย่างแพร่หลายโดยเฉพาะในแถบยุโรป เป็นวิธีการรักษาแบบลดแรงดันในหมอนรองกระดูกสันหลัง(สารน้ำในหมอนรองกระดูก)ที่ยื่นออกมาให้กลับสู่ที่เดิมโดยการฉีดเจลเข้าไปฝังตัวในหมอนรองกระดูกสันหลัง
คลินิกของเรายังมีการรักษาโรคหมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาทด้วยวิธีเลเซอร์ (PLDD) โอโซน (PODD) และไฮบริดที่เป็นการผสมผสานระหว่างเลเซอร์กับโอโซน แต่สำหรับการรักษาโรคหมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาท เราขอแนะนำวิธีการรักษาแบบ PIDD มากกว่าแบบเลเซอร์และโอโซน เพราะเป็นการรักษาหน้าที่การทำงานของหมอนรองกระดูกสันหลัง หลังการรักษาเจลที่ฉีดฝังเข้าไปในหมอนรองกระดูกสันหลังยังคงอยู่และทำหน้าที่เป็นวัสดุกันกระแทกโดยที่ขนาดของหมอนรองกระดูกสันหลังจะไม่ลดลงเหมือนกับวิธีแบบ PLDD และ PODD โดยเฉพา ะอย่างยิ่งเราขอแนะนำวิธีนี้ให้แก่ผู้ป่วยที่มีความกังวลเรื่องความเสี่ยงจากการผ่าตัดหมอนรองกระดูกสันหลังแบบดั้งเดิม ( เช่น MED หรือ PELD) หรือการผ่าตัดอื่นๆ
วิธีการรักษาแบบ PIDD (การลดแรงดันในหมอนรองกระดูกสันหลังโดยการปลูกฝัง)
หลังฉีดยาชาเฉพาะที่แล้วแพทย์จะสอดเข็ม(Paracentesis) ขนาด 0.8 มิลลิเมตร เข้าไปในหมอนรองกระดูกสันหลังพร้อมกับใช้เครื่องเอ็กซเรย์ฟลูออโรสโคปเพื่อตรวจสอบตำแหน่งเข็มร่วมด้วยแล้วทำการฉีดยาเข้าไป ตัวเจลจะแทรกซึมเข้าไปได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยเฉพาะในส่วนที่ยื่นออกมา

เงื่อนไขโรคที่สามารถรักษาได้
- โรคหมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาท
กลุ่มคนที่มีปัญหาเหล่านี้
-
1
ผู้ที่ทรมานจากอาการปวดหลังส่วนล่างที่เกิดจากโรคหมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาท
-
2
ผู้ที่กำลังพิจารณาวิธีการรักษาโรคหมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาทด้วยเลเซอร์ (PLDD)
-
3
ผู้ที่กลัวการผ่าตัดรักษาโรคหมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาท (เช่น การผ่าตัด MED・PELD เป็นต้น)
-
4
ผู้ที่เคยผ่าตัดรักษาโรคหมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาทแล้ว แต่อาการไม่ดีขึ้น (กลับมาเป็นซ้ำอีก)
-
5
ผู้ที่กลัวการผ่าตัดไม่ต้องการเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลเพื่อผ่าตัดรักษาโรคหมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาท
-
6
ผู้ที่ต้องการรักษาแบบที่เจ็บตัวน้อย
※ผู้สูงอายุ (ที่มีอายุมากกว่า 80 ปีขึ้นไป) ก็สามารถเข้ารับการรักษาได้
ข้อดีของการรักษาด้วยวิธี PIDD
-
ปรับปรุงหน้าที่การทำงานในการกันกระแทกของหมอนรองกระดูกสันหลัง
เจลที่ฉีดเข้าไปฝังตัวอยู่ในหมอนรองกระดูกสันหลังทำหน้าที่เป็นตัวกันกระแทกของหมอนรองกระดูกสันหลัง
-
การรักษาแบบผู้ป่วยนอกที่เจ็บตัวน้อย
ใช้เวลาทำการรักษาประมาณ 30-40 นาที หลังรักษาจำเป็นต้องนอนพักฟื้นประมาณ 60 นาที โดยรวมประมาณ 90 นาทีก็สามารถเดินทางกลับบ้านได้
-
วิธีการรักษาแบบใหม่ทดแทนวิธีการรักษาแบบผ่าตัด แบบเลเซอร์และแบบโอโซน
สามารถรักษาผู้ป่วยที่เคยผ่าตัดหรือรักษาด้วยเลเซอร์แล้วแต่อาการไม่ดีขึ้น
วิธีการรักษาและโรคที่รักษา
วิธี PIDD เป็นการรักษาแบบลดแรงดันเพื่อให้หมอนรองกระดูกสันหลัง(สารน้ำในหมอนรองกระดูกสันหลัง) ที่ยื่นออกมากลับสู่ที่เดิม โดยแพทย์จะใช้เข็มขนาดเล็กสอดเข้าไปในหมอนรองกระดูกสันหลังแล้วฉีดเจลเข้าไปฝังตัว การรักษาจะทำภายใต้การใช้ยาชาเฉพาะที่ วัตถุประสงค์ของการรักษาวิธีนี้ คือ ทำให้หมอนรองกระดูกสันหลังที่เกิดการเคลื่อนตัวซึ่งเป็นสาเหตุหลักของอาการปวดนั้นลดลงหรือหายไปโดยยังคงรักษาหน้าที่การทำงานของหมอนกระดูกสันหลังไว้ ส่วนเจลที่ฝังตัวก็หลงเหลืออยู่ทำหน้าที่กันกระแทกของหมอนรองกระดูกสันหลัง

วิธีการรักษาแบบ PIDD จะได้ประสิทธิภาพดีกับการรักษาโรคหมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาทในระดับเล็กน้อยถึงปานกลางโดยเฉพาะที่มีแรงดันภายในสูง อีกทั้ง PIDD ยังได้ผลดีกับสภาพหมอนรองกระดูกเคลื่อนแบบสารน้ำทะลุออกมาจากเยื่อหุ้มแต่ยังเชื่อมติดกันอยู่และแบบสารน้ำเคลื่อนหลุดออกมาเต็มที่ไม่มีการเชื่อมติดกับหมอนรองกระดูกสันหลังอีกด้วย


เมื่อฉีดยาชาเฉพาะที่แล้วแพทย์จะสอดเข็มขนาดเล็กเข้าไปในหมอนรองกระดูกสันหลังแล้วฉีดเจลเข้าไปฝังตัว
หลังการรักษาด้วยการลดแรงดันในหมอนรองกระดูกสันหลังที่ยื่นออกมาให้กลับสู่ที่เดิมแล้ว เจลที่ถูกฉีดเข้าไปฝังตัวจะยังคงอยู่และหน้าทำหน้าที่เป็นวัสดุกันกระแทก
เวลาในการรักษาและปัญหาหลังการรักษา
- เวลาที่ใช้ในการรักษา:
- ประมาณ 30-40 นาที
หลังเข้ารับการรักษาจำเป็นต้องนอนพักฟื้นประมาณ 60 นาที โดยรวมใช้เวลาประมาณ 90 นาที ก็สามารถกลับบ้านได้ กิจกรรมเบาๆสามารถทำได้ในวันถัดไป แต่การใช้แรงงานหรือการเล่นกีฬาหนักๆจำเป็นต้องหยุดพักไว้ประมาณหนึ่งเดือน
- ปัญหาหลังการรักษา
- อาการอาจจะแย่ลงชั่วคราวหลังการรักษาประมาณ 1-2 สัปดาห์ เหตุผลคือมีความเป็นไปได้ว่าโครงสร้างโดยรอบถูกดึงซึ่งเป็นผลมาจากแรงดันที่ลดลงจากเจลที่ฉีดเข้าไปฝังตัว แต่ในกรณีที่หมอนรองกระดูกสันหลังมีรอยแตกจะไม่สามารถรักษาด้วยวิธีนี้ได้เพราะไม่มีพื้นที่ที่จะฉีดเจลเข้าไปในหมอนรองกระดูกสันหลัง กรณีเช่นนี้จำเป็นต้องรักษาด้วยวิธี DST (Discseel Treatment)
- เรื่องผลข้างเคียง
- ความเสียหายของเส้นประสาทยังไม่มีรายงานในบทความหรือกรณีตัวอย่างเกิดขึ้นกับเรา แต่มีความเป็นไปได้เล็กน้อยที่อาจจะมีอาการแพ้ยาชาเฉพาะที่เกิดขึ้น
ลำดับขั้นตอนการเข้ารับการรักษา
-
1
การติดต่อสอบถาม
คลินิกเราเป็นระบบการนัดหมายเท่านั้น ดังนั้นกรุณาโทรมาสอบถามเพื่อทำการนัดหมายก่อนที่ท่านจะเดินทางมาที่คลินิกและหากท่านมีคำถามหรือข้อสงสัยใดๆเพิ่มเติม โปรดอย่าลังเลที่จะติดต่อเรา
-
2
บริการวินิจฉัยฟรีด้วยภาพ
หากท่านส่งต่อภาพ MRI ที่เคยตรวจทีโรงพยาบาลอื่น (ไม่เกินสามเดือน) มาให้เรา เราสามารถให้คำปรึกษาฟรีว่าผู้ป่วยนั้นสามารถเข้ารับการรักษาที่คลินิกเราได้หรือไม่ กรณีที่ท่านอยู่ใกล้คลินิกและต้องการเข้ารับการตรวจ MRIและ X-ray ที่คลินิก ท่านสามารถโทรหาเราเพื่อทำการนัดหมายได้
-
3
เลือกวันทำการรักษา
หากผลการวินิจฉัยยืนยันว่าท่านสามารถเข้ารับการรักษาที่คลินิกเราได้ ท่านสามารถดำเนินการต่อโดยการนัดวันทำการรักษา
-
4
การเตรียมตัวเดินทาง
การรักษาของคลินิกเราสามารถกลับบ้านได้ในวันเดียวไม่จำเป็นต้องนอนพักฟื้นที่โรงพยาบาลหลายวัน ดังนั้นท่านสามารถเดินทางมารักษาที่ประเทศญี่ปุ่นได้ในฐานะวีซ่านักท่องเที่ยว ทั้งนี้กรุณาจัดเตรียมเรื่องตั๋วการเดินทางและที่พักให้เรียบร้อย
-
5
การตรวจก่อนเข้ารับการรักษา
เมื่อท่านเดินทางมาถึงคลินิกแล้วจะต้องทำการตรวจ MRI・เอ็กซเรย์และเข้ารับการตรวจวินิจฉัยจากแพทย์เพื่อฟังคำอธิบายเกี่ยวกับโรคและวิธีการรักษาที่เหมาะสม
-
6
การรักษา
การรักษาจะดำเนินการภายใต้การใช้ยาชาเฉพาะที่และใช้เวลาประมาณ 15-60 นาที ขึ้นอยู่กับวิธีการรักษาและจำนวนของหมอนรองกระดูกสันหลังที่ทำการรักษา
-
7
การเดินทางกลับบ้าน
หลังเข้ารับการรักษาจะต้องนอนพักประมาณ 30 นาที -1 ชั่วโมงและเข้ารับการตรวจอีกครั้ง จากนั้นสามารถเดินทางกลับบ้านได้
-
8
การติดตามผลหลังการรักษา
เราจะติดต่อท่านเป็นระยะเพื่อติดตามอาการ หากท่านมีคำถามหรือข้อสงสัยกรุณาติดต่อมาหาเรา
อัตราค่ารักษาของวิธี PIDD
จำนวนจุดที่ทำการรักษา | 1จุด | 2จุด | 3จุด | 4จุด | 5จุด |
---|---|---|---|---|---|
อัตราค่ารักษา | 825,000 Japanese Yen (JPY) | 935,000 Japanese Yen (JPY) | 1,045,000 Japanese Yen (JPY) | 1,155,000 Japanese Yen (JPY) | 1,265,000 Japanese Yen (JPY) |
- หมายเหตุ
- ※สำหรับผู้ที่เข้ารับการรักษาที่คลินิกของเราค่าใช้จ่ายทั้งหมดสำหรับการตรวจวินิจฉัยและ MRIหรือการทดสอบอื่นๆ จะรวมอยู่อัตราค่ารักษาข้างต้น
※จ่ายค่ารักษากึ่งหนึ่งของค่ารักษาเต็ม หากทำการรักษาซ้ำอีกครั้งภายใน 3 ปีหลังการรักษา
※อัตราค่ารักษาข้างต้นยังไม่รวมภาษี
※วิธีการรักษานี้ไม่สามารถใช้ประกันสังคมได้ ดังนั้นต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง
※การชำระค่ารักษากรุณาชำระในวันที่เข้ารับการรักษาและสามารถชำระด้วยเงินสดหรือบัตรเครดิตประเภท Visa, Master, Union Pay
※หากมีความต้องการทำกายภาพบำบัด (บำบัดอาการปวดหลัง) สามารถโอนค่าใช้จ่ายผ่านทางธนาคารได้
※สามารถขอคืนภาษีได้สำหรับผู้ที่ทำเรื่องขอคืนภาษีค่ารักษา
ภาพรวมวิธีการรักษา
-
วิธีการรักษาแบบ DST (Discseel™)
การรักษาหมอนรองกระดูกสันหลังที่เริ่มมีมาตั้งแต่ปี 2010 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา วิธีนี้สามารถรักษาโรคได้หลายหลายประเภทรวมถึงผู้ป่วยที่มีปัญหาหลังการผ่าตัดด้วยและเป็นเพียงวิธีเดียวที่สามารถ “ ซ่อมแซมและฟื้นฟูหมอนรองกระดูกสันหลัง ” ได้
รายละเอียดคลิกที่นี่ -
วิธีการรักษาแบบ PIDD (Implant)
การรักษาแบบปลูกฝังเข้าไปในหมอนรองกระดูกสันหลังที่เริ่มมีมาตั้งแต่ปี 2000 ประสิทธิภาพที่ได้จะไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อหมอนรองกระดูกสันหลังเช่นเดียวกับวิธีแบบ PLDD วิธีนี้เหมาะสำหรับการรักษาโรคหมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาทเท่านั้น
รายละเอียดคลิกที่นี่ -
วิธีการรักษาแบบ ไฮบริดเลเซอร์
การรักษาที่รวมข้อดีของวิธีการรักษาแบบ PLDD และ PODD เข้าด้วยกัน วิธีนี้เหมาะสำหรับการรักษาโรคหมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาทเท่านั้น
รายละเอียดคลิกที่นี่ -
วิธีการรักษาแบบ PODD (โอโซน)
การรักษาหมอนรองกระดูกสันหลังด้วยโอโซนที่ใช้รักษากันอย่างแพร่หลายในแถบยุโรปตั้งแต่ปี 1990 วิธีนี้สามารถรักษาโรคได้หลากหลายประเภท
รายละเอียดคลิกที่นี่ -
วิธีการรักษาแบบ PLDD (เลเซอร์)
การรักษาหมอนรองกระดูกสันหลังด้วยเลเซอร์แบบผู้ป่วยนอกเริ่มมีมาตั้งแต่ปี 1980 และเป็นวิธีการรักษาหลักๆที่ใช้ในประเทศญี่ปุ่น วิธีนี้เหมาะสำหรับการรักษาโรคหมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาทเท่านั้น
รายละเอียดคลิกที่นี่