วิธีการรักษาแบบไฮบริดเลเซอร์
- หน้าหลัก/
- ภาพรวมวิธีการรักษา/โรคที่รักษา/
- วิธีการรักษาแบบไฮบริดเลเซอร์
การรักษาแบบไฮบริดเลเซอร์ คือ
การรักษาแบบเลเซอร์ + การรักษาแบบโอโซนการรักษาแบบไฮบริดเลเซอร์เป็นการรักษาโรคหมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาทโดยมีวัตถุประสงค์ในการรวมข้อดีของการรักษาแบบเลเซอร์ (PLDD)และแบบโอโซน (PODD)มาใช้ร่วมกันและเป็นการรักษาแบบที่มีแผลเพียงเล็กน้อย ข้อดีของการรักษาแบบเลเซอร์ คือการลดแรงดันในหมอนรองกระดูกสันหลังอันเป็นสาเหตุของหมอนรองกระดูกเคลื่อนและข้อดีของการรักษาแบบโอโซน คือบรรเทาอาการอักเสบของเส้นประสาทที่เกิดจากหมอนรองกระดูกเคลื่อน ข้อดีแต่ละอย่างนั้นแตกต่างกันจึงคาดหวังว่าการนำมาใช้ร่วมกันนี้จะทำให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น
วิธีการรักษาแบบไฮบริดเลเซอร์
หลังจากใช้ยาชาเฉพาะที่แล้วแพทย์จะสอดเข็ม(Paracentesis) ขนาด1.0 มิลลิเมตร เข้าไปในหมอนรองกระดูกสันหลังและใช้เครื่องเอ็กซเรย์ฟลูออโรสโคปในการตรวจสอบตำแหน่งเข็มเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อเส้นประสาท จากนั้นทำการลดแรงดันของสารน้ำที่ยื่นออกมาด้วยเลเซอร์แล้วฉีดโอโซนเข้าไปตามบริเวณรอยโรคหรือจุดที่อักเสบเป็นอันเสร็จสิ้น การรักษาด้วยเลเซอร์และโอโซนนี้จะใช้เข็มลักษณะพิเศษขนาด1.0 มิลลิเมตร ซึ่งสามารถทำการรักษาได้ในเวลาเดียวกัน

เงื่อนไขโรคที่สามารถรักษาได้
- โรคหมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาท
กลุ่มคนที่มีปัญหาเหล่านี้
-
1
ผู้ที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคหมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาท
-
2
ผู้ที่ทรมานจากอาการปวดหลังเรื้อรังอันมีสาเหตุมาจากโรคหมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาท
-
3
ผู้ที่กำลังพิจารณาเรื่องการผ่าตัดรักษาโรคหมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาท แต่หากเป็นไปได้ก็ไม่อยากผ่าตัด
-
4
ผู้ที่เคยเข้ารับการผ่าตัดมาแล้ว แต่อาการไม่ดีขึ้น (หรือกลับมาเป็นซ้ำ)
-
5
ผู้ที่กลัวการผ่าตัดรักษาหมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาท
-
6
ผู้ที่ไม่ต้องการนอนพักฟื้นที่โรงพยาบาลจากการผ่าตัดรักษาโรคหมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาท
-
7
ผู้ที่คาดหวังกับการรักษาแบบที่เจ็บตัวน้อย
※ผู้สูงอายุ (ที่มีอายุมากกว่า 80 ปีขึ้นไป) ก็สามารถเข้ารับการรักษาได้
ข้อดีของวิธีการรักษาแบบไฮบริดเลเซอร์
-
แทบจะไม่มีรอยบาดแผลหลงเหลือไว้
เป็นการรักษาโดยการสอดเข็มขนาดเล็กเข้าไปเท่านั้น ไม่มีการเปิดแผลจึงแทบจะไม่หลงเหลือรอยแผลเป็นไว้
-
การรักษาแบบผู้ป่วยนอกที่เจ็บตัวน้อย
ใช้เวลาในการรักษาประมาณ 20~25 นาที หลังจากเข้ารับการรักษาจำเป็นต้องพักฟื้นประมาณ 60 นาที โดยรวมใช้เวลาประมาณ 90 นาที ก็สามารถกลับบ้านได้
-
ไม่จำเป็นต้องฟื้นฟูสมรรถภาพหรือเข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่อง
เนื่องจากไม่จำเป็นต้องฟื้นฟูสมรรภาพหรือเข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นผู้ป่วยที่อยู่ห่างไกลจึงสามารถกลับไปใช้ชีวิตและทำงานได้ปกติ
วิธีการรักษาและโรคที่สามารถรักษาได้
การรักษาแบบไฮบริดเลเซอร์เป็นการขจัดสาเหตุของการปวดด้วยการลดแรงดันในหมอนรองกระดูกสันหลังที่ยื่นออกมากดทับเส้นประสาท วิธีการรักษา คือแพทย์จะสอดเข็ม (Paracentesis)ขนาด1.0 มิลลิเมตร เข้าไปในหมอนรองกระดูกสันหลังและใช้เครื่องเอ็กซเรย์ฟลูออโรสโคปเพื่อตรวจสอบตำแหน่งเข็มส่องจากด้านหลังเช่นเดียวกับวิธี PLDDและ PODD การฉายแสงเลเซอร์ไปที่หมอนรองกระดูกสันหลัง (สารน้ำในหมอนรองกระดูกสันหลัง) ที่ยื่นออกมาโดยผ่านเส้นใยเลเซอร์ที่อยู่ในเข็มจะสามารถขจัดส่วนที่เป็นต้นเหตุของอาการปวดได้โดยทำให้สารน้ำที่ยื่นออกมานั้นระเหยไปแล้วฉีดโอโซนเข้าไปในหมอนรองกระดูกสันหลังเช่นเดียวกับวิธี PODD เป็นการรักษาที่มีประสิทธิภาพในการขจัดอาการปวดโดยใช้ฤทธิ์ต้านการอักเสบของโอโซน จุดเด่นของการรักษาวิธีนี้ คือด้านประสิทธิภาพที่ได้ผลดีกว่าการรักษาแบบ PLDD และ PODD แบบดั้งเดิม

การรักษาแบบไฮบริดเลเซอร์จะมีประสิทธิภาพสำหรับการรักษาหมอนรองกระดูกเคลื่อนที่มีแรงดันภายในสูงและเคลื่อนในระดับเล็กน้อยถึงปานกลางแบบที่ไม่ได้ทะลุออกมาจากเอ็น ในกรณีที่หมอนรองกระดูกเคลื่อนทะลุออกมาจากเยื่อหุ้มชั้นนอกแต่ยังมีการเชื่อมติดกันอยู่และแบบที่เคลื่อนหลุดออกมาจากเยื่อหุ้มไม่มีการเชื่อมติดกับหมอนรองกระดูกสันหลัง วิธีการรักษาแบบ PIDD หรือ DST จะมีประสิทธิภาพในการรักษามากกว่า


ทำให้หมอนรองกระดูกสันหลังหดลงโดยการสร้างโพรงขึ้นจากการจี้เลเซอร์ไปที่สารน้ำที่อยู่ในหมอนรองกระดูกสันหลัง
ลดการอักเสบโดยการฉีดโอโซนจากปลายเข็มที่สอดเข้าไปยังบริเวณที่มีการอักเสบ
เวลาในการรักษาและปัญหาหลังการรักษา
- เวลาที่ใช้ในการรักษา:
- ประมาณ 20-25 นาที
หลังเข้ารับการรักษาจำเป็นต้องพักฟื้นประมาณ 60 นาที โดยรวมสามารถกลับบ้านได้ใน 90 นาที สำหรับกิจกรรมการเคลื่อนไหวเบาๆ สามารถทำได้ในวันถัดไป แต่การเล่นกีฬาหรือใช้แรงงานหนักจำเป็นต้องหยุดพักไว้ประมาณหนึ่งเดือน
- ปัญหาหลังการรักษา
- ในกรณีที่หมอนรองกระดูกสันหลังแตกเสียหายเกรงว่าจะมีอัตราการเกิดซ้ำสูงเช่นเดียวกับวิธีการผ่าตัด เนื่องจากไม่สามารถฟื้นฟูอาการบาดเจ็บของหมอนรองกระดูกสันหลังได้เช่นเดียวกับวิธีการผ่าตัด การลดอัตราการเกิดซ้ำจำเป็นต้องรักษาด้วยวิธี PIDD (การลดแรงดันของหมอนรองกระดูกสันหลังด้วยการปลูกฝังเข้าไป) หรือวิธี DST (Discseel Treatment)
ผลข้างเคียง
หลังได้รับการรักษาด้วยวิธีไฮบริดเลเซอร์แล้ว บางกรณีอาจจะรู้สึกปวดหลัง ชา และกล้ามเนื้อบริเวณน่องขาตึง
ซึ่งอาการและสภาพของแต่ละคนจะแตกต่างกัน แต่หลังจากการผ่าตัดผ่านไปหนึ่งอาทิตย์ถึงหนึ่งเดือน อาการที่ไม่เคยพบเห็นจนถึงตอนนี้จะเริ่มแสดงออกมาบ้างเป็นครั้งคราว
หากเปรียบเทียบระหว่างการผ่าตัดภายนอกแล้วแม้โอกาสจะต่ำกว่า แต่ก็มีความเสี่ยงของการติดเชื้อหรือสภาวะแทรกซ้อนได้
ก่อนเข้ารับการรักษา หากมีข้อกังวลใจหรือมีข้อสงสัยอย่างไร กรุณาลองมาปรึกษาที่คลินิกของเรา แพทย์ของคลินิกเราจะอธิบายการรักษาอย่างละเอียดเพื่อลดความเสี่ยงเหล่านี้
ลำดับขั้นตอนการเข้ารับการรักษา
-
1
การติดต่อสอบถาม
คลินิกเราเป็นระบบการนัดหมายเท่านั้น ดังนั้นกรุณาโทรมาสอบถามเพื่อทำการนัดหมายก่อนที่ท่านจะเดินทางมาที่คลินิกและหากท่านมีคำถามหรือข้อสงสัยใดๆเพิ่มเติม โปรดอย่าลังเลที่จะติดต่อเรา
-
2
บริการวินิจฉัยฟรีด้วยภาพ
หากท่านส่งต่อภาพ MRI ที่เคยตรวจทีโรงพยาบาลอื่น (ไม่เกินสามเดือน) มาให้เรา เราสามารถให้คำปรึกษาฟรีว่าผู้ป่วยนั้นสามารถเข้ารับการรักษาที่คลินิกเราได้หรือไม่ กรณีที่ท่านอยู่ใกล้คลินิกและต้องการเข้ารับการตรวจ MRIและ X-ray ที่คลินิก ท่านสามารถโทรหาเราเพื่อทำการนัดหมายได้
-
3
เลือกวันทำการรักษา
หากผลการวินิจฉัยยืนยันว่าท่านสามารถเข้ารับการรักษาที่คลินิกเราได้ ท่านสามารถดำเนินการต่อโดยการนัดวันทำการรักษา
-
4
การเตรียมตัวเดินทาง
การรักษาของคลินิกเราสามารถกลับบ้านได้ในวันเดียวไม่จำเป็นต้องนอนพักฟื้นที่โรงพยาบาลหลายวัน ดังนั้นท่านสามารถเดินทางมารักษาที่ประเทศญี่ปุ่นได้ในฐานะวีซ่านักท่องเที่ยว ทั้งนี้กรุณาจัดเตรียมเรื่องตั๋วการเดินทางและที่พักให้เรียบร้อย
-
5
การตรวจก่อนเข้ารับการรักษา
เมื่อท่านเดินทางมาถึงคลินิกแล้วจะต้องทำการตรวจ MRI・เอ็กซเรย์และเข้ารับการตรวจวินิจฉัยจากแพทย์เพื่อฟังคำอธิบายเกี่ยวกับโรคและวิธีการรักษาที่เหมาะสม
-
6
การรักษา
การรักษาจะดำเนินการภายใต้การใช้ยาชาเฉพาะที่และใช้เวลาประมาณ 15-60 นาที ขึ้นอยู่กับวิธีการรักษาและจำนวนของหมอนรองกระดูกสันหลังที่ทำการรักษา
-
7
การเดินทางกลับบ้าน
หลังเข้ารับการรักษาจะต้องนอนพักประมาณ 30 นาที -1 ชั่วโมงและเข้ารับการตรวจอีกครั้ง จากนั้นสามารถเดินทางกลับบ้านได้
-
8
การติดตามผลหลังการรักษา
เราจะติดต่อท่านเป็นระยะเพื่อติดตามอาการ หากท่านมีคำถามหรือข้อสงสัยกรุณาติดต่อมาหาเรา
อัตราค่ารักษาของวิธีไฮบริดเลเซอร์
จำนวนจุดที่ทำการรักษา | 1จุด | 2จุด | 3จุด | 4จุด | 5จุด |
---|---|---|---|---|---|
อัตราค่ารักษา | 440,000 Japanese Yen (JPY) | 495,000 Japanese Yen (JPY) | 550,000 Japanese Yen (JPY) | 605,000 Japanese Yen (JPY) | 660,000 Japanese Yen (JPY) |
- หมายเหตุ
- ※สำหรับผู้ที่เข้ารับการรักษาที่คลินิกของเราค่าใช้จ่ายทั้งหมดสำหรับการตรวจวินิจฉัยและ MRIหรือการทดสอบอื่นๆ จะรวมอยู่อัตราค่ารักษาข้างต้น
※จ่ายค่ารักษากึ่งหนึ่งของค่ารักษาเต็ม หากทำการรักษาซ้ำอีกครั้งภายใน 3 ปีหลังการรักษา
※อัตราค่ารักษาข้างต้นยังไม่รวมภาษี
※วิธีการรักษานี้ไม่สามารถใช้ประกันสังคมได้ ดังนั้นต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง
※การชำระค่ารักษากรุณาชำระในวันที่เข้ารับการรักษาและสามารถชำระด้วยเงินสดหรือบัตรเครดิตประเภท Visa, Master, Union Pay
※หากมีความต้องการทำกายภาพบำบัด (บำบัดอาการปวดหลัง) สามารถโอนค่าใช้จ่ายผ่านทางธนาคารได้
※สามารถขอคืนภาษีได้สำหรับผู้ที่ทำเรื่องขอคืนภาษีค่ารักษา
ถามตอบเกี่ยวกับวิธีการรักษาแบบไฮบริดเลเซอร์
-
วิธีการรักษาแบบไฮบริดเลเซอร์เหมาะสำหรับผู้ป่วยแบบไหน
วิธีนี้มักจะใช้สำหรับผู้ที่มีอาการชาและอาการปวดที่รุนแรง และผู้ป่วยที่มีการตอบสนองการอักเสบได้อดทนกว่า
-
มีความแตกต่างจากวิธีรักษาแบบ PODD อย่างไร
โอโซนจะมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ สำหรับวิธีรักษาแบบ PODD มีจุดประสงค์เพื่อลดความดันภายในของหมอนรองกระดูก โดยการฉีดโอโซนเข้าไปในหมอนรองกระดูก
แต่สำหรับวิธีรักษาแบบไฮบริดเลเซอร์คือการสร้างโพรงขึ้นและลดขนาดของหมอนรองกระดูก โดยการฉายเลเซอร์ (PLDD)ไปที่สารน้ำที่อยู่ในหมอนรองกระดูกสันหลัง
หลังจากนั้น จะสอดเข็มเข้าไปในบริเวณหมอนรองกระดูกเพื่อฉีดโอโซนเข้าไปในบริเวณที่มีจุดอักเสบ -
วิธีการรักษาแบบไฮบริดเลเซอร์สามารถใช้ได้กับโรคอื่นที่นอกเหนือจากโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทได้หรือไม่
ในกรณีนี้ ทางเราจะพิจารณาการรักษาวิธีอื่นไปด้วย การรักษาด้วยวิธี DST หรือ วิธีโอโซน อาจใช้เป็นทางเลือกในการรักษาโรคโพรงกระดูกสันหลังตีบแคบได้
-
ใช้เวลานานแค่ไหนที่อาการอักเสบจะหายไปหลังจากฉีดโอโซนเข้าไปตรงบริเวณที่อักเสบ
การอักเสบจะบรรเทาขึ้นภายในหนึ่งสัปดาห์หลังการรักษา ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล บางคนอาจใช้เวลาประมาณหนึ่งเดือน
-
การกายภาพบำบัดจำเป็นหรือไม่หลังจากรักษาด้วยวิธี PLDD
สามารถออกกำลังกายแบบเบาๆ ได้หนึ่งสัปดาห์หลังการรักษา แต่หากมีอาการปวดหลังการผ่าตัด ควรเลี่ยงการเล่นกีฬาหรือการออกกำลังกายอย่างหนัก
ควรเริ่มจากเดินเบาๆ หรือ การบริหารร่างกายโดยการยืดตัว
ทางคลินิกเราได้ร่วมมือจากผู้เชี่ยวชาญติดตั้งเครื่องมือทางกายภาพบำบัดเพื่อการพักฟื้นอาการปวดหลัง กรุณาอ่านรายละเอียดได้ที่
ILM腰痛メディカルフィットネス
ภาพรวมวิธีการรักษา
-
วิธีการรักษาแบบ DST (Discseel™)
การรักษาหมอนรองกระดูกสันหลังที่เริ่มมีมาตั้งแต่ปี 2010 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา วิธีนี้สามารถรักษาโรคได้หลายหลายประเภทรวมถึงผู้ป่วยที่มีปัญหาหลังการผ่าตัดด้วยและเป็นเพียงวิธีเดียวที่สามารถ “ ซ่อมแซมและฟื้นฟูหมอนรองกระดูกสันหลัง ” ได้
รายละเอียดคลิกที่นี่ -
วิธีการรักษาแบบ PIDD (Implant)
การรักษาแบบปลูกฝังเข้าไปในหมอนรองกระดูกสันหลังที่เริ่มมีมาตั้งแต่ปี 2000 ประสิทธิภาพที่ได้จะไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อหมอนรองกระดูกสันหลังเช่นเดียวกับวิธีแบบ PLDD วิธีนี้เหมาะสำหรับการรักษาโรคหมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาทเท่านั้น
รายละเอียดคลิกที่นี่ -
วิธีการรักษาแบบ ไฮบริดเลเซอร์
การรักษาที่รวมข้อดีของวิธีการรักษาแบบ PLDD และ PODD เข้าด้วยกัน วิธีนี้เหมาะสำหรับการรักษาโรคหมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาทเท่านั้น
รายละเอียดคลิกที่นี่ -
วิธีการรักษาแบบ PODD (โอโซน)
การรักษาหมอนรองกระดูกสันหลังด้วยโอโซนที่ใช้รักษากันอย่างแพร่หลายในแถบยุโรปตั้งแต่ปี 1990 วิธีนี้สามารถรักษาโรคได้หลากหลายประเภท
รายละเอียดคลิกที่นี่ -
วิธีการรักษาแบบ PLDD (เลเซอร์)
การรักษาหมอนรองกระดูกสันหลังด้วยเลเซอร์แบบผู้ป่วยนอกเริ่มมีมาตั้งแต่ปี 1980 และเป็นวิธีการรักษาหลักๆที่ใช้ในประเทศญี่ปุ่น วิธีนี้เหมาะสำหรับการรักษาโรคหมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาทเท่านั้น
รายละเอียดคลิกที่นี่